
“ณัฏฐ์ ธีรณัฐสุภานนท์” ที่เพิ่งได้รับเสียงคะแนนอย่างท่วมท้น จากการเลือกตั้ง “นายกสภาสมาคมธรรมาภิบาล” สมัยที่ 3 ได้รับการไว้วางใจจากสมาชิกทั่วประเทศ โดยภารกิจหลักคือติดตามตรวจสอบและประเมินผลการปฎิบัติงานภาครัฐอย่างสม่ำเสมอ และเผยแพร่ต่อสาธารณะชน โดยมีมิติว่า หากมีการละเลยไม่ปฎิบัติตามกฎหมายระเบียบข้อบังคับ กรณีเกิดการทุจริต จะให้ประธานฯแจ้งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของรัฐ จะต้องแจ้งผู้ว่าฯจังหวัดนั้นๆเป็นไปตามหลักธรรมาภิบา เพื่อให้บทบาทคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัด ช่วยกันสอดส่องดูแล อย่างการทำโครงการต่างๆในจังหวัด ให้เกิดความคุ้มค่าสูงสุดในการใช้จ่ายงบประมาณที่ได้รับมาจากภาครัฐ ซึ่งเสมือนกับเป็นเสียงเตือนจากภาคประชาสังคม
ดังนั้น เมื่อเกิดความไม่โปร่งใส่และไม่เป็นธรรม มีการทุจริต จะรับเรื่องเหล่านี้มาส่งต่อให้สภาสมาคมธรรมาภิบาลฯ กลั่นกรอง เพื่อดำเนินการทางกฎหมาย โดยศาลยุติธรรมเป็นผู้ชี้ขาด เรื่องนี้ “ณัฎฐ์”ในฐานะนายกสภาสมาคมธรรมาภิบาล ชี้แจงว่า หน้าที่หลักและบทบาทของสภาฯ เพื่อปราบปรามการทุจริต ที่ส่งผลกระทบต่อสังคมและรัฐเกิดความเสียหาย และต้องการสนับสนุนให้องค์กรรัฐมีความเข้มแข็ง โดยใช้กฎหมายดำเนินการอย่างแต่ละปีเรื่องการทุจริตเกิดขึ้นกับหน่วยงานรัฐและเอกชนมากมาย ร่วม1,000 เรื่อง มาจากหน่วยสายปกครอง
ความมั่นคง และพัฒนาสังคม ส่วนใหญ่มาจากเรื่องทุจริต ผิดข้อบังคับระเบียบราชการร้องเรียนเข้ามา ทางสภาฯจะทำการกลั่นกรองตรวจสอบ เพื่อให้เกิดความยุติธรรมและโปร่งใส

“การทำงานเรื่องการตรวจสอบองค์กรต่างๆ และเรื่องเกี่ยวกับคนกระทำความผิดนั้น ย่อมมีผลกระทบและความรู้สึกทางจิตใจ แต่ทางสภาฯจะใช้กฎหมายเป็นตัวขาด ไม่ได้เข้าไปแทรกแซงเรื่องทำผิดหรือถูก ขอเป็นไปตามกระบวนการของศาลยุติธรรม ถ้าผิดจริงจะมีบทลงโทษทางกฎหมาย แต่ปัจจุบันเรื่องการร้องเรียนฯเข้ามายังสภาฯมีจำนวนมาก สะท้อนให้เห็นสังคมไทยเรื่องคอร์รัปชั่นที่ยังไม่หมดสิ้น” นายณัฏฐ์กล่าว
